top of page

สาเหตุของริดสีดวงทวารและการรักษา โดย กองบรรณาธิการ

  • รูปภาพนักเขียน: Bangkok News Network
    Bangkok News Network
  • 4 มี.ค.
  • ยาว 1 นาที

ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids) เกิดจากการที่หลอดเลือดในช่องทวารหนักหรือทวารหนักขยายตัวและบวม ซึ่งอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ รวมถึง:

  1. แรงดันที่สูงในทวารหนัก: เมื่อมีการเบ่งหรือออกแรงมากเกินไประหว่างการขับถ่าย เช่น การท้องผูก หรือการเบ่งหนัก อาจทำให้หลอดเลือดบริเวณทวารหนักขยายตัวและเกิดการบวมขึ้น

  2. ท้องผูกเรื้อรัง: การที่ท้องผูกบ่อยๆ ทำให้ต้องเบ่งถ่ายหนักมากขึ้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวาร

  3. การนั่งหรือยืนนานๆ: การนั่งหรือยืนนานๆ โดยไม่มีการขยับร่างกาย อาจเพิ่มแรงดันในทวารหนัก

  4. การตั้งครรภ์: ในช่วงการตั้งครรภ์ มดลูกที่ขยายตัวจะกดทับเส้นเลือดในทวารหนัก ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวาร

  5. การยกของหนัก: การยกของหนักหรือการทำงานที่ใช้แรงมากอาจเพิ่มแรงดันในทวารหนัก

  6. อาหารไม่สมดุล: การไม่รับประทานอาหารที่มีเส้นใย (fiber) มากพอ อาจทำให้ท้องผูก และเป็นสาเหตุที่ทำให้ริดสีดวงทวารเกิดขึ้น

  7. อายุ: เมื่ออายุมากขึ้น ความยืดหยุ่นของหลอดเลือดในทวารหนักจะลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวาร

  8. พันธุกรรม: บางครั้งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ที่มีการเสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวาร

การดูแลรักษาสุขภาพให้ดี รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีเส้นใยพอเพียง ดื่มน้ำมากๆ และการหลีกเลี่ยงการเบ่งถ่ายหนักสามารถช่วยป้องกันริดสีดวงทวารได้ค่ะ




การรักษาริดสีดวงทวาร


การรักษาริดสีดวงทวารมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและสภาพของผู้ป่วย โดยการรักษาสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ดังนี้:

1. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด (Conservative Treatment)

วิธีนี้เหมาะสำหรับกรณีที่อาการไม่รุนแรงหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ

  • การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน: ควรทานอาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ผักผลไม้ ธัญพืช และดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันการท้องผูกและลดการเบ่งขณะขับถ่าย

  • การใช้ยาทา: ครีมหรือยาทาแบบเฉพาะที่ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์หรือยาชา เช่น ไฮโดรคอร์ติโซน หรือยาที่ช่วยลดอาการอักเสบและบรรเทาความเจ็บปวด

  • การแช่น้ำอุ่น: แช่ก้นในน้ำอุ่น 10-15 นาทีหลายครั้งในหนึ่งวันเพื่อช่วยลดอาการปวดและอักเสบ

  • การหลีกเลี่ยงการเบ่งถ่ายหนัก: พยายามขับถ่ายให้เร็วและไม่เบ่งแรงมากเกินไป

  • การใช้ยาระบาย: หากท้องผูกควรใช้ยาระบายที่ไม่ทำให้ท้องเสีย เพื่อช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปได้อย่างสะดวก

2. การรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ (Minimally Invasive Treatment)

ถ้าการรักษาด้วยวิธีธรรมดาไม่สามารถบรรเทาอาการได้ หรือริดสีดวงทวารมีขนาดใหญ่ขึ้น อาจจำเป็นต้องใช้วิธีทางการแพทย์ เช่น:

  • การจี้ด้วยเลเซอร์: การใช้เลเซอร์เพื่อทำลายหรือทำให้เส้นเลือดที่บวมในริดสีดวงทวารหดตัวลง

  • การผูกเส้นเลือด (Rubber Band Ligation): การผูกเส้นเลือดที่บริเวณริดสีดวงทวารด้วยยางวง เพื่อป้องกันเลือดไหลมาเลี้ยง จนกระทั่งมันฝ่อและหลุดออกไป

  • การใช้โฟม (Sclerotherapy): การฉีดสารเคมีเข้าไปในหลอดเลือดที่บวมเพื่อทำให้มันฝ่อและยุบตัว

3. การรักษาด้วยการผ่าตัด (Surgical Treatment)

หากริดสีดวงทวารรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อน เช่น เลือดออกมากหรือมีอาการปวดมาก อาจต้องผ่าตัด

  • การผ่าตัดริดสีดวงทวาร (Hemorrhoidectomy): การตัดริดสีดวงทวารที่มีขนาดใหญ่หรือรุนแรงออกโดยการใช้วิธีผ่าตัด

  • การผ่าตัดผูกเส้นเลือด (Stapled Hemorrhoidopexy): วิธีนี้จะใช้เครื่องมือพิเศษในการดึงและตัดส่วนของริดสีดวงทวารที่บวม เพื่อทำให้เนื้อเยื่อกลับคืนสู่ตำแหน่งปกติ

4. การดูแลหลังการรักษา

หลังจากการรักษาหรือผ่าตัด ควรดูแลตัวเองโดย:

  • ทานอาหารที่มีเส้นใยสูงและดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันการท้องผูก

  • พยายามไม่เบ่งถ่ายหนัก

  • ใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำ

  • หากเป็นหลังการผ่าตัด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลแผล

การรักษาริดสีดวงทวารควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในกรณีที่มีอาการรุนแรงหรือไม่หายไปจากการรักษาด้วยวิธีธรรมดาค่ะ

Comentarios


Top Stories

เว็บข่าวออนไลน์เพื่อคุณ

ติดต่อโฆษณา

 K.Achira

064-039-6490

bangkoknewsnetwork@gmail.com

  • Instagram
  • Youtube
  • TikTok
  • Facebook

© 2035 by The Global Morning. Powered and secured by Wix

bottom of page