สาเหตุของริดสีดวงทวารและการรักษา โดย กองบรรณาธิการ
- Bangkok News Network
- 4 มี.ค.
- ยาว 1 นาที

ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids) เกิดจากการที่หลอดเลือดในช่องทวารหนักหรือทวารหนักขยายตัวและบวม ซึ่งอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ รวมถึง:
แรงดันที่สูงในทวารหนัก: เมื่อมีการเบ่งหรือออกแรงมากเกินไประหว่างการขับถ่าย เช่น การท้องผูก หรือการเบ่งหนัก อาจทำให้หลอดเลือดบริเวณทวารหนักขยายตัวและเกิดการบวมขึ้น
ท้องผูกเรื้อรัง: การที่ท้องผูกบ่อยๆ ทำให้ต้องเบ่งถ่ายหนักมากขึ้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวาร
การนั่งหรือยืนนานๆ: การนั่งหรือยืนนานๆ โดยไม่มีการขยับร่างกาย อาจเพิ่มแรงดันในทวารหนัก
การตั้งครรภ์: ในช่วงการตั้งครรภ์ มดลูกที่ขยายตัวจะกดทับเส้นเลือดในทวารหนัก ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวาร
การยกของหนัก: การยกของหนักหรือการทำงานที่ใช้แรงมากอาจเพิ่มแรงดันในทวารหนัก
อาหารไม่สมดุล: การไม่รับประทานอาหารที่มีเส้นใย (fiber) มากพอ อาจทำให้ท้องผูก และเป็นสาเหตุที่ทำให้ริดสีดวงทวารเกิดขึ้น
อายุ: เมื่ออายุมากขึ้น ความยืดหยุ่นของหลอดเลือดในทวารหนักจะลดลง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวาร
พันธุกรรม: บางครั้งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ที่มีการเสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวาร
การดูแลรักษาสุขภาพให้ดี รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีเส้นใยพอเพียง ดื่มน้ำมากๆ และการหลีกเลี่ยงการเบ่งถ่ายหนักสามารถช่วยป้องกันริดสีดวงทวารได้ค่ะ

การรักษาริดสีดวงทวาร
การรักษาริดสีดวงทวารมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและสภาพของผู้ป่วย โดยการรักษาสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ดังนี้:
1. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด (Conservative Treatment)
วิธีนี้เหมาะสำหรับกรณีที่อาการไม่รุนแรงหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน: ควรทานอาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ผักผลไม้ ธัญพืช และดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันการท้องผูกและลดการเบ่งขณะขับถ่าย
การใช้ยาทา: ครีมหรือยาทาแบบเฉพาะที่ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์หรือยาชา เช่น ไฮโดรคอร์ติโซน หรือยาที่ช่วยลดอาการอักเสบและบรรเทาความเจ็บปวด
การแช่น้ำอุ่น: แช่ก้นในน้ำอุ่น 10-15 นาทีหลายครั้งในหนึ่งวันเพื่อช่วยลดอาการปวดและอักเสบ
การหลีกเลี่ยงการเบ่งถ่ายหนัก: พยายามขับถ่ายให้เร็วและไม่เบ่งแรงมากเกินไป
การใช้ยาระบาย: หากท้องผูกควรใช้ยาระบายที่ไม่ทำให้ท้องเสีย เพื่อช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปได้อย่างสะดวก
2. การรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ (Minimally Invasive Treatment)
ถ้าการรักษาด้วยวิธีธรรมดาไม่สามารถบรรเทาอาการได้ หรือริดสีดวงทวารมีขนาดใหญ่ขึ้น อาจจำเป็นต้องใช้วิธีทางการแพทย์ เช่น:
การจี้ด้วยเลเซอร์: การใช้เลเซอร์เพื่อทำลายหรือทำให้เส้นเลือดที่บวมในริดสีดวงทวารหดตัวลง
การผูกเส้นเลือด (Rubber Band Ligation): การผูกเส้นเลือดที่บริเวณริดสีดวงทวารด้วยยางวง เพื่อป้องกันเลือดไหลมาเลี้ยง จนกระทั่งมันฝ่อและหลุดออกไป
การใช้โฟม (Sclerotherapy): การฉีดสารเคมีเข้าไปในหลอดเลือดที่บวมเพื่อทำให้มันฝ่อและยุบตัว
3. การรักษาด้วยการผ่าตัด (Surgical Treatment)
หากริดสีดวงทวารรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อน เช่น เลือดออกมากหรือมีอาการปวดมาก อาจต้องผ่าตัด
การผ่าตัดริดสีดวงทวาร (Hemorrhoidectomy): การตัดริดสีดวงทวารที่มีขนาดใหญ่หรือรุนแรงออกโดยการใช้วิธีผ่าตัด
การผ่าตัดผูกเส้นเลือด (Stapled Hemorrhoidopexy): วิธีนี้จะใช้เครื่องมือพิเศษในการดึงและตัดส่วนของริดสีดวงทวารที่บวม เพื่อทำให้เนื้อเยื่อกลับคืนสู่ตำแหน่งปกติ
4. การดูแลหลังการรักษา
หลังจากการรักษาหรือผ่าตัด ควรดูแลตัวเองโดย:
ทานอาหารที่มีเส้นใยสูงและดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันการท้องผูก
พยายามไม่เบ่งถ่ายหนัก
ใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำ
หากเป็นหลังการผ่าตัด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลแผล
การรักษาริดสีดวงทวารควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในกรณีที่มีอาการรุนแรงหรือไม่หายไปจากการรักษาด้วยวิธีธรรมดาค่ะ
Comentarios